เบื้องหลังการจัดทำหนังสือ "วรลาโภ ผู้ให้ธรรมประดุจดั่งพรอันประเสริฐ"

ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ พระสุธรรมคณาจารย์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

ตามรอยหลวงปู่เหรียญสู่ภาคเหนือ (4)



ตามรอยหลวงปู่เหรียญสู่ภาคเหนือ
(ตอนที่ 4 ตามหาวัดในตำนานที่สันกำแพง)


คุณรถแดงใจดี


รถแดงที่พาพวกเราเดินทางไปในเชียงใหม่

                เช้าวันที่ 27 ตุลาคม พวกเราก็วางแผนการเดินทางในวันนี้อีกครั้ง ในวันนี้เรามีแผนที่จะเดินทางไปในส่วนต่างๆ ของเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ไม่ได้เล่าไปว่า ช่วงที่เราอยู่ในเชียงใหม่ได้อาศัยรถสองแถว ที่คนเชียงใหม่เรียก “รถแดง” พาเราไปกันทุกที่ในเชียงใหม่ รถคันนี้เป็นของพี่จุก เป็นโยมลูกศิษย์ของพระอาจารย์รุ่งโรจน์พระอาจารย์ที่เดินทางไปกับเรา การเดินทางครั้งนี้พี่จุกก็ไม่ได้คิดค่าจ้างแต่ประการใด ถือเป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังเป็นกำลังอันสำคัญ ที่ทำให้พวกเราได้มาซึ่งภาพและข้อมูลสำคัญ การพบกันระหว่างศิษย์อาจารย์คู่นี้ก็มีความน่าสนใจ ก็คือ

                เมื่อครั้งที่พระอาจารย์รุ่งโรจน์ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ในสำนักสงฆ์ที่ดอยอ่างขาง ท่านกลับจากต่างจังหวัดลงมาจากรถไฟ พี่จุกซึ่งเป็นรถรับจ้างหาลูกค้าที่สถานี เห็นพระอาจารย์ก็เลยเข้าไปถามว่าจะไปไหน ท่านบอกท่านไม่มีปัจจัยติดตัวมาจ้างโยมไปดอก(พระธุดงค์ท่านจะไม่ติดปัจจัยเอาไว้) พี่จุกเห็นก็นึกสงสาร เลยถามว่าไปไหน “ไปดอยอ่างขาง” พี่จุกเลยเห็นว่าพอจะไปส่งได้ ก็เลยรับอาสาพาพระอาจารย์ไปส่งให้ฟรีๆ พอไปเห็นวัดก็ยิ่งศรัทธา เพราะเป็นวัดป่าที่อยู่ในความดูแลของหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร พี่จุกได้มาพักภาวนาและคอยอุปฐากช่วยเหลือพระอาจารย์รุ่งโรจน์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สำนักสงฆ์สันติธรรมอาศรม บ้านคิวริบเปอร์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่



                สถานที่แรกของวันนี้คือ อาคารสำนักงานสำนักวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งในอดีตคือ สำนักสงฆ์สันติธรรมอาศรม บ้านคิวริบเปอร์ หลวงปู่เหรียญท่านเคยจำพรรษาที่นี่ โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านของแม่เลี้ยงดอกจันทร์ คิวริบเปอร์ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อพยพออกไปนอกเมือง และได้อาราธนาพระธุดงคกรรมฐาน ซึ่งมีหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร เป็นประธานสงฆ์มาพักอาศัยแทน



                ณ สถานที่นี้มีเหตุการณ์ที่สำคัญก็คือ หลวงปู่เหรียญท่านเล็งเห็นถึงความสามารถของสามเณรทองอินทร์ ท่านจึงได้ให้ความอนุเคราะห์จัดหาเครื่องบวชตลอดจนการอุปสมบทให้เป็นพระภิกษุสงฆ์ ต่อมาพระทองอินทร์รูปนี้ได้เจริญในทางปฏิบัติและสมณศักดิ์ เป็นท่านเจ้าคุณพระนพีสีพิศาลคุณ ( หลวงปู่พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดสันติธรรม และเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต)

                ถึงแม้ว่าวัดสันติธรรมในยุคของท่านจะไม่ใช่วัดป่าเต็มรูปแบบเพราะความเจริญได้เขยิบเข้ามารายล้อมวัด แต่ท่านก็ยังภาวนาอยู่ไม่ขาด ข้อพิสูจน์หนึ่งก็ถือ ภายหลังจากที่ท่านมรณภาพ พอทำพิธีพระราชทานเพลิงศพและเก็บอัฐิในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าอัฐิของท่านมีลักษณะเป็นแก้ว หรือที่เรียกว่า พระธาตุ ในคืนเดียว

                ได้ขออนุญาตเจ้าของสถานที่เข้าไปถ่ายในส่วนต่างๆ ของสำนักงาน เราพบว่าบ้านหลังนี้มีความสงบจริงๆ แม้ในปัจจุบัน มีระเบียงหลายแห่ง ซึ่งมีความเหมาะสมกับการเดินจงกรมอย่างมาก เจ้าหน้าที่ยังได้หารูปอดีตเจ้าของบ้านมาให้พวกเราสำหรับการประกอบในหนังสืออีกด้วย

                ชมภาพพระธาตุหลวงปู่พระมหาทองอินทร์ได้จากเว็บไซต์วัดสันติธรรม http://www.santidham.com/tatu1st/tatu/present/p-tongin/p-tongin.htm
 
*****************************
 
วัดป่าเปอะ อ.สารภี จ.เชียงใหม่


วัดป่าเปอะ

                ต่อจากนั้นเราก็มุ่งหน้ามาทางอำเภอสารภี ผ่านเส้นทางซึ่งเคยเป็นประตูบานแรกของจังหวัดเชียงใหม่ คือถนนที่มีต้นสักหลายร้อยต้น แต่ละต้นล้วนแต่มีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ยืนต้นสองข้างทางต้อนรับผู้มาเยือน และพวกเราก็มีถึงวัดป่าเปอะ การเดินทางมาที่นี่ เพราะจากการคำสัมภาษณ์ท่านเจ้าคุณพระพุทธพจน์ฯ วัดเจดีย์หลวง ท่านบอกถึงสถานที่ที่หลวงปู่มั่นท่านเคยมาบำเพ็ญภาวนาใช้ธรรมโอสถบำบัดโรค ซึ่งปรากฏในประวัติหลวงปู่มั่น ท่านเจ้าคุณบอกกับพวกเราว่าป่าเปอะที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ในบริเวณวัดป่าเปอะ แต่เป็นป่าละเมาะอยู่ตรงข้ามกับวัดป่าเปอะ


คูน้ำบริเวณหลังศูนย์

                ปัจจุบันพื้นที่ที่อยู่ตรงข้ามวัดป่าเปอะ คือศูนย์บำบัดพักฟื้นผู้ป่วยโรคมะเร็ง สภาพปัจจุบันในศูนย์ก็ยังมีสภาพเป็นป่าละเมาะ หลงเหลืออยู่ ได้ขออนุญาตกับทางศูนย์เข้าไปสำรวจและถ่ายรูปไว้ครับ


อาคารของศูนย์
 
*****************************
วัดเกาะกลาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน



                จากป่าเปอะ เราก็มาที่ วัดเกาะกลาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากอำเภอสารภีมากนัก พวกเราเดินทางมาที่นี่เนื่องจากการสัมภาษณ์หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร ท่านได้บอกไว้ว่า หลวงปู่เหรียญ ท่านก็เคยเดินทางมาพักที่วัดเกาะกลาง ให้ลองเดินทางไปดู เผื่อจะพบร่องรอยอะไรที่เหลืออยู่



                ที่วัดเกาะกลางแห่งนี้เป็นวัดธรรมยุตแห่งแรกๆ ของอำเภอป่าซาง เคยมีครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่มาพักหลายองค์ เช่น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่แหวน  สุจิณฺโณ ในตอนที่พวกเราไปกัน กำลังมีการสำรวจทางโบราณคดี โดยกรมศิลปากร

อ่านข้อมูลการขุดค้นทางโบราณวัดเกาะกลาง ได้จาก http://www.kanmuang.org/NT/data/13/0086-1.html

วัดหนองดู่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน



                บริเวณใกล้ๆ กับวัดเกาะกลาง ยังมีวัดที่สำคัญอีกวัดหนึ่งก็คือ วัดหนองดู่ วัดนี้ปรากฏในประวัติของ หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี เนื่องมาจากมีพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ท่านได้ธุดงค์มาในบริเวณนี้แล้วได้มาอบรมสั่งสอนชาวมอญซึ่งเป็นกลุ่มชนในแถบนี้ตลอดจนพระภิกษุสงฆ์ให้ยึดถือในพระรัตนตรัยและเลิกละการนับถือผี ซึ่งก็ได้ผลชาวบ้านหันมายึดมั่นในพระรัตนตรัยเลิกนับถือผี พระภิกษุสงฆ์ก็ขอทำทัฬหิกรรมบวชใหม่เป็นพระในฝ่ายธรรมยุตหมดทั้งวัด ทางคณะสงฆ์ได้มอบหมายให้หลวงปู่เทสก์ท่านมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดหนองดู่ ภายหลังจากที่วัดหนองดู่เปลี่ยนมาเป็นวัดปฏิบัติตลอดจนมาอบรมพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านด้วย


หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

อ่านข้อมูลการจำพรรษาของหลวงปู่เทสก์ได้ที่ http://www.thewayofdhamma.org/page1/attano24.html
 
***********************
 
วัดดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่


หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณารํกโร

                จากอำเภอป่าซาง เราก็เข้าที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เราได้แวะไปที่วัดดอนมูล ซึ่งเป็นวัดของ หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณารํกโร ที่ชาวเชียงใหม่จะกล่าวนามถึงท่านว่า ครูบาคำแสนเล็ก (ครูบาคำแสนใหญ่ คือ หลวงปู่ครูบาคำแสน อินฺทจกฺโก วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ) หลวงปู่ครูบาคำแสนท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺตมหาเถรในฝ่ายมหานิกาย เคยอุปฐากตลอดจนศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่น ในช่วงที่องค์ท่านบำเพ็ญภาวนาอยู่ในแถบอำเภอสันกำแพง ท่านยังเป็นสหธรรมิกของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม อีกด้วย



                ที่วัดแห่งนี้จะมีอนุสรณ์ของหลวงปู่ครูบาคำแสนคือ วิหารที่เก็บอัฐิและบริขารของหลวงปู่ ใกล้ๆ กับวัดดอนมูล ก็จะมีวัดป่าซึ่งเป็นที่ภาวนาของหลวงปู่ครูบาคำแสนในช่วงสุดท้ายของชีวิตท่าน


วิหารหลวงปู่ครูบาคำแสน


ศาลาที่วัดป่า

พระที่วัดยังได้เมตตามอบหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ครูบามาให้ด้วย มีเนื้อหาคือประวัติขององค์ท่าน ร่วมทั้งการพบและฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น กับครูบาเจ้าศรีวิชัย อีกทั้งสายสัมพันธ์ที่มีต่อหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ที่น่าประทับใจยิ่ง
 
********************************
 
ตามหาวัดสันต้นเปา

                ออกจากวัดดอนมูลแล้ว ก็มาตามหาวัดสันต้นเปาซึ่งหลวงปู่เหรียญท่านเคยจำพรรษา จากข้อมูลที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกไว้ว่า วัดนี้อยู่ในอำเภอสันทรายแต่ว่าตั้งอยู่ที่ไหนไม่ทราบ จากข้อมูลที่เราค้นหาจากที่สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เราทราบว่าวัดนี้ไม่มีชื่อยู่ในวัดธรรมยุตในจังหวัดเชียงใหม่ จึงมาค้นดูรายชื่อวัดทั้งหมด ก็ไม่พบชื่อวัดนี้ จึงลองหาดูชื่อใกล้เคียงก็พบชื่อ วัดต้นเปาอยู่ในบัญชีวัดในอำเภอสันกำแพงอยู่ แต่ก็ไม่ทราบอยู่ดีว่าวัดตั้งอยู่ที่ไหน จึงจัดสินใจลองเดินทางไปที่อำเภอสันกำแพงแล้วค่อยลองถามชาวบ้านดู หลงทางเสียหลายครั้งก็มาพบวัดนี้เข้า รองสอบถามประวัติวัดนี้ดูจึงทำให้ทราบว่า ชื่อวัดอดีตก็คือวัดสันต้นเปานั้นเอง ปัจจุบันเป็นวัดในฝ่ายมหานิกาย




                นอกจากหลวงปู่เหรียญจะเคยมาจำพรรษาแล้ว ก็ยังมีหลวงปู่หลอด ปโมทิโต กับหลวงปู่ผั่น ปาเรสโก เคยมาจำพรรษา รูปวัดที่พวกเราไปถ่ายมากันครั้งนี้ ก็เคยนำไปประกอบหนังสือประวัติหลวงปู่หลอดอีกด้วย
 
**************************
 
วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่



                แล้วเราก็เดินทางมาที่วัดโรงธรรมสามัคคี ในอดีตเป็นศาลาโรงธรรมที่นิมนต์พระกรรมฐานซึ่งมีหลวงปู่มั่น เป็นต้น มาแสดงธรรม ต่อมาได้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ โดยเฉพาะตรงบริเวณพระเจดีย์คือสถานที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งกุฏิหลวงปู่มั่น


สถูปคุณพ่อแสง และลูกหลานในตระกูลชินวัตร

                วัดแห่งนี้ก่อตั้งโดย คุณพ่อแสง ชินวัตร และญาติโยมในอำเภอสันกำแพง หลวงปู่เหรียญท่านเคยมาจำพรรษาที่นี่หลายพรรษา โดยมีคุณพ่อแสงท่านนี้เป็นอุปฐาก (คุณพ่อแสงท่านนี้คือคุณปู่ของอดีตนายกทักษิณ)

วัดทิพวนาราม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่


หลวงปู่ชอบ ฐานสโม



                ในอดีต คือ สำนักสงฆ์แม่หนองหาร หลวงปู่เหรียญท่านเคยมาจำพรรษากับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม



อ่านข้อมูลวัดทิพวนารามได้จาก http://www.thainews70.com/news/news-culture/view.php?topic=473
 
**********************
 
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่



                จากวัดทิพวนาราม เราก็เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งอยู่ในอำเภอเดียวกัน ที่นี่อดีตคือสถานที่ที่หลวงปู่เหรียญ ท่านได้กราบและฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺตมหาเถรเป็นครั้งแรก หลวงปู่เหรียญท่านได้เดินทางจากวัดเจดีย์หลวง โดยมีหลวงตาเกตุ วณฺณโก พาหลวงปู่เดินทางไปพบหลวงปู่มั่น


หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตมหาเถร


หลวงตาเกตุ วณฺณโก สิทธวิหาริกองค์เดียวในหลวงปู่มั่น

                มีเรื่องแปลกที่ปรากฏในบันทึกของหลวงปู่ก็คือ ก่อนที่หลวงปู่เหรียญท่านจะเข้าไปกราบหลวงปู่มั่นนั้น ท่านได้นิมิตหลวงปู่มั่นในสมาธิ ท่านจำหน้าหลวงปู่มั่นได้ในนิมิตนั้นโดยที่ท่านก็ไม่เคยเห็นแม้แต่รูปถ่ายหลวงปู่มั่นเลย พอมาพบองค์จริงก็มีลักษณะหน้าตาเดียวกัน ยังความปีติให้กับหลวงปู่เป็นอย่างมาก การพบกันครั้งนั้น ยังผลถึงผลแห่งการปฏิบัติอันยิ่งใหญ่ในกาลต่อมา


ปกหนังสือหลวงปู่พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต

                มาที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก็เป็นแห่งสุดท้ายในการเดินทางในวันนี้ แล้วพวกเราก็กลับมาพักที่วัดสันติธรรม ลืมเราไปนิดพวกเราได้รับความเมตตาจาก ท่านพระครูวิมลธรรมรัต หรือพระอาจารย์ศรีนวล เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม ได้มอบหนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่พระมหาทองอินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือที่ระลึกที่สวยงานในยุคปัจจุบัน มาเป็นข้อมูลสำคัญอีกด้วย พอมาถึงวัดพวกเราก็มาเตรียมเก็บกระเป๋า เพราะเป็นพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายในการเดินทาง

ในตอนต่อไป จะพาท่านไปยัง
สถานที่ที่มีความสำคัญต่อชีวิตสมณะของหลวงปู่เหรียญ
โปรดติดตามตอนต่อไป
 
*****************************************

 

<หน้าก่อน กลับไปหน้า บทความ หน้าถัดไป>
ขอเชิญลงนามและร่วมอนุโมทนาในสมุดเยี่ยม ที่นี่

จัดทำโดย : คณะศิษยานุศิษย์ พระเดชพระคุณ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เริ่มจัดทำเมื่อ พุทธศักราช ๒๕๕๒
ขอขอบคุณ คุณกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ผู้ให้การสนับสนุนเ็วบไซต์
E:Mail : luangpurian@mail.com http://www.luangpurian.com