|
|
|
พระครูวิเวกพุทธกิจ
( หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล )
|
พระครูวินัยธรภูริทัตโต
( หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต )
|
พระญาณวิศิษฏ์
(หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม)
|
สามเสนาธิการกองทัพธรรมฝ่ายวิปัสสนาธุระของประเทศไทยยุคปัจจุบัน
|
ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
จะเห็นได้ว่ากองทัพธรรมฝ่ายวิปัสสนาธุระภายใต้การนำของสามเสนาธิการ
คือ พระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น และพระอาจารย์สิงห์
ได้วางแผนอย่างมีระเบียบวินัยและอาจหาญ
นำพระในคณะออกเผยแพร่พุทธบริษัททั้งคฤหัสถ์
และบรรพชิตในภาคต่างๆให้พากันสนใจและบำเพ็ญภาวนาฝึกฝนจิตใจกันมากขึ้น
เรื่องราวที่จะปรากฏต่อไปนี้จะชี้ให้เห็นถึงการแผ่ขยายของกองทัพธรรมฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ขยายออกไปทุก
ภาคของประเทศ
โดยพระญาณวิศิษฏ์ (สิงห์
ขนฺตยาคโม) ศิษย์เอกของพระอาจารย์มั่น และเป็นผู้นำที่สำคัญในการเผยแพร่ครั้ง
นั้นด้วย เป็นผู้เรียบเรียงขึ้นเองโดยตลอดว่า
พระอาจารย์ท่านใดเป็นผู้นำไปเผยแพร่ในภาคใด
จังหวัดไหน...
( ในที่นี้ทางผู้จัดทำเว็บไซร์ได้ปรับปรุงข้อมูลบางประการเพิ่มเติม
เช่น สมณศักดิ์ วันที่มรณภาพ สถานที่จำพรรษาครั้งสุดท้าย
เพิ่มเติมไว้ภายในเครื่องหมายวงเล็บ )
กรุงเทพมหานคร
|
๑. พระมหาปิ่น
ปญฺญาพโล ปธ.๕ ได้รับบัญชาสมเด็จพระมหาวีระวงศ์ (ติสฺโส อ้วน)
แล้วได้ไปเผยแพร่ พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ท่านพักที่วัดบรมนิวาส
กรุงเทพฯ ๑ พรรษา มีพุทธบริษัทสดับตรับฟังเป็นอันมาก
มรณะภาพแล้ว
( ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙ ณ วัดป่าแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
)
|
พระมหาปิ่น
ปญฺญาพโล
|
๒. พระอาจารย์สิงห์
ขนฺตยาคโม ได้รับบัญชาสมเด็จพระมหาวีระวงศ์ (ติสฺโส อ้วน)
แล้วได้ไปเผยแพร่ พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระในภาค ๑ กรุงเทพฯ
ท่านพักที่วัดบรมนิวาส
๑ พรรษา ได้ฝึกสอนพุทธบริษัทวัดบรมนิวาสให้นั่งสมาธิภาวนาและได้ไปฝึกสอนพุทธ
บริษัท วัดสัมพันธวงศ์ให้นั่งสมาธิภาวนา
มีประชาชนพุทธบริษัทมาสดับตรับฟังและฝึกหัดนั่งสมาธิเป็นอันมากทั้ง
๒ สำนัก
ท่านได้มรณะภาพเมื่อวันที่
๘ กันยายน ๒๕๐๔ ( ณ วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา )
|
|
พระอาจารย์สิงห์
ขนฺตยาคโม
|
ลพบุรี
พระอาจารย์ปทุม
ธนปาโล ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่จังหวัดลพบุรีท่านพักอยู่ที่วัดป่านิคมสามัคคีชัย
บ้านบ่อหด จังหวัดลพบุรีท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรฝ่ายวิปัสสนาธุระ
มีพระนามว่า พระครูญาณวิโรจน์
ปราจีนบุรี
๑. พระอาจารย์สิงห์
ขนฺตยาคโม ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระในภาค ๒ จังหวัดปราจีนบุรีก่อนแต่เมื่อยังไม่ตั้งสำนักสงฆ์วัดป่าทรงคุณ
ท่านพักที่สวนมะม่วงของอาจารย์พร บรรลือคุณ ตะวันออก วัดป่าทรงคุณ ในดงพระราม
จังหวัดปราจีนบุรีและได้ไปช่วยแก้ไขวัดปากพอกที่เลิกร้าง
ให้กลับเป็นวัดดีมีพระคณะธรรมยุต อยู่ประจำตลอดจนทุกวันนี้
๒. พระมหาปิ่น ปญฺญาพโล
ปธ.๕ ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระภาค ๒ จังหวัดปราจีน
บุรีอีกท่านพักที่สำนักสงฆ์
วัดป่าทรงคุณ ตำบล ดงพระราม อำเภอ เมือง จังหวัดปราจีนบุรี ๕ พรรษา
เมื่อกลับจากจังหวัดปราจีนบุรีแล้ว
ท่านป่วยได้นำไปพยาบาลรักษาตัว ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินทร์-
ชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ๒ พรรษา ไม่หายได้ถึงแก่มรณะภาพ
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๙
จันทบุรี
๓. พระอาจารย์ลี
ธมฺมธโร และ พระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ พระอาจารย์วิริยังค์
สิรินฺธโร พระอาจารย์ ไสว โสภิโต ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา ฝ่ายวิปัสสนาธุระในภาค
๒ จังหวัดจันทบุรี และได้แยกกันอยู่องค์ ละสำนัก คือ
พระอาจารย์ลี
ธมฺมธโร พักอยู่ที่สำนักสงฆ์วัดป่าคลองกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงได้ ๒๔๙๒ พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร ได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระใน
ภาค ๑ กรุงเทพฯ ท่านพักอยู่ที่วัดบรมนิวาส จังหวัดพระนคร |
|
พระอาจารย์ลี
ธมฺมธโร
|
ต่อมาท่านอยู่ที่วัดอโศการาม
จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ
ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีพระนามว่า พระสุทธิธรรม รังสีคัมภีร์เมธาจารย์
ท่านมรณะภาพเมื่อวันที่
๒๖ เมษายน ๒๕๐๔
พระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ
ท่านพักอยู่ที่สำนักสงฆ์ วัดป่าทรายงาม บ้านหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัด
จันทบุรี
เมื่อกลับจากจังหวัดจันทบุรีภาค
๒ แล้ว คณะสงฆ์ได้จัดส่งให้ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาภาค ๔ จังหวัดสกลนคร
ท่านพักอยู่ที่วัดดอยธรรมเจดีย์
บ้านนาสีนวน ตำบลตองโขบ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
ท่านมรณะภาพเมื่อวันที่
๑๗ ตุลาคม ๒๕๐๕
พระอาจารย์วิริยังค์
สิธินฺธโร ท่านพักอยู่ที่สำนักสงฆ์ วัดป่าดำรงธรรมาราม
และได้ขออนุญาตสร้างอุโบสถผูกพันธสีมา
เมื่อพ.ศ. ๒๕๐๐ ชื่อว่าพันจากความเป็นสำนักสงฆ์แล้ว ได้เป็นวัด ดำรงธรรมารามโดยสมบูรณ์ด้วยกฏหมาย
อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์
เป็นพระครูสัญญาบัตรฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีนามว่า พระครูญาณวิริยะ
ปัจจุบันคือ พระราชธรรมเจติยาจารย์
เจ้าอาวาสธรรมมงคล ซอยสุขุมวิท ๑๐๑ พระโขนง กรุงเทพฯ
พระอาจารย์ไสว โสภิโต
ท่านพักอยู่ที่วัดเจดีย์แก้ว ตำบลหนองซิ้ม อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
ได้รับสมณศักดิ์ เป็นฐานานุกรมของเจ้าคุณ
พระเทพสุทธิโมลี วัดจันทนาราม เจ้าคณะธรรมยุต จังหวัด จันทบุรี มีนามว่า
พระครูปลัดไสว โสภิโต
นครราชสีมา
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
๒๔๗๔ สมเด็จพระมหาวีระวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ เป็นพระราชา
คณะ ชั้นเจ้าคณะรอง (หิรัญญบัตร) มีนามว่า เจ้าคณะ พระพรหมมุนี (ติสฺโส
อ้วน) เจ้าคณะมณฑลนคร ราชสีมา วัดสุทธจินดา
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์์
|
ท่านได้บังเกิดมีความสังเวชสลดใจ
โดยได้ทัศนาการเห็นเจ้าพระคุณ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดบรมนิวาส
จังหวัดพระนคร ป่วยหนักระลึกถึงตัวว่าไม่มีกัลยาณมิตรที่ดีทางฝ่ายวิปัสสนา
ใคร่จะหาที่พึ่งอันประเสริฐต่อไป
จึงตกลงใจต้องไปเอาพระอาจารย์สิงห์
ขนฺตยาคโม พระมหาปิ่น ปญฺญาพโล ซึ่งกำลังออกเที่ยวธุดงค์ไป
จังหวัดขอนแก่นมาเป็นกัลยาณมิตรที่ดีให้จงได้
|
เมื่อตกลงใจแล้วก็ไปโดยฐานะเป็นเจ้าคณะตรวจการ
ครั้นไปถึงจังหวัดขอนแก่นแล้ว
ถามได้ทราบว่า พระอาจารย์สิงห์ พระมหาปิ่น กำลังออกไปเทศนาสั่งสอน ประชาชนอยู่อำเภอน้ำพอง
ก็โทรเลขถึงนายอำเภอให้ไปอาราธนา
พระอาจารย์สิงห์ พระมหาปิ่น เอารถยนต์มาส่งถึงจังหวัดขอนแก่นใน
วันนั้น
เมื่อมาถึงจังหวัดขอนแก่นแล้ว
ท่านบอกว่า
จะเอาไปอยู่ด้วยที่จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อปรึกษาหารือกันด้านวิปัสสนาและอบรมสมถวิปัสสนาแก่พุทธบริษัท ทั้งหลายด้วย
เพราะได้เห็น เจ้าคุณพระอุบาลี คุณูปมาจารย์ป่วยขาหักเสียแล้ว เราสลดใจมาก
เมื่อมาถึงจังหวัดนครราชสีมาแล้ว
เจ้าคุณพระพรหมมุนีพักอยู่วัดสุทธจินดา พอสมควรแล้ว ก็นำพระอาจารย์ สิงห์
พระมหาปิ่น ออกไปหาวิเวก ที่ป่าช้าที่ ๓
คุณหลวงชาญนิคม คุณหลวงนรา
ได้ถวายที่ดินให้เห็นเป็นพื้นที่สร้างวัดป่าสาลวัน
แล้วท่านก็นำไปหาเจ้าพระคุณ
พระอุบาลี คุณูปมาจารย์ ที่วัดบรมนิวาสกรุงเทพฯ
ครั้นเมื่อวันที่ ๖
พฤษภาคม ๒๔๗๕ กลับจากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดนครราชสีมาแล้ว เจ้าพระคุณพระพรหมมุนี
ไปพักวัดสุทธจินดา
พระอาจารย์สิงห์ พระมหาปิ่น
ไปพักที่วัดป่าสาลวัน ซึ่งคุณหลวงชาญนิคม ได้เริ่มสร้างมาตั้งแต่เดือนกุมภา
พันธ์ ๒๔๗๔ ได้กุฏิ ๑ หลัง ศาลายังสร้างไม่เสร็จ ๑ หลัง
พรรษาแรก ได้แยกกันอยู่จำพรรษา
ดังนี้คือ
๑. พระอาจารย์สิงห์
ขนฺตยาคโม
๒. พระอาจารย์อ่อน
ญาณสิริ
๓. พระอาจารย์กงมา
จิรปุญฺโญ
เผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ
อยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์วักป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา มีพระ ภิกษุ
๓๘ รูป สามเณร ๑๒ รูป
๑. พระมหาปิ่น ปญฺญาพโล
ปธ.๕กับ
๒. พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
เผยแพร่พระพุทธศาสนาอยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์
ป่าช้าที่ ๒ เรียกว่าป่าศรัทธารวม ตำบลหัวทะเล อำเภอ เมือง จังหวัดนครราชสีมา
มีพระภิกษุ ๑๐ รูป สามเณร ๔ รูป
ครั้นปีต่อไป ก็ได้แยกกันอยู่จำพรรษา
เป็นหลายสำนักมากขึ้น โดยลำดับ คือ
๑. ท่านพระอาจารย์ภุมมี
จิตรธมฺโม พร้อมด้วยพระภิกษุ ๕ รูป เผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ
อยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์ วัดป่าท่าช้าง จังหวัดนครราชสีมา
ท่านมรณะภาพประมาณปี
๒๕๐๖
พระอาจารย์อ่อน
ญาณสิริ
|
พระอาจารย์ฝั้น
อาจาโร
|
พระอาจารย์กงมา
จิรปุญโญ
|
๒. พระอาจารย์อ่อน
ญาณสิริ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ
ให้ไปเผยแพร่พระ พุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ ใขเขตอำเภอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
นายอำเภอมีความเลื่อมใสอาราธนาไปพักสำนักสงฆ์
วัดป่าสว่างอารมณ์ บ้านใหม่สำโรง อำเภอสี่คิ้ว จังหวัด นครราชสีมา
๓. พระอาจารย์ลี
ธมฺมธโร พร้อมทั้งพวกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่อำเภอโชคชัย
ขุนอำนาจ นายอำเภอมีศรัทธาเลื่อมใสมากได้อาราธนาให้ท่านพักที่สำนักสงฆ์วัดป่าธรรมนิการาม
อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
๔. พระอาจารย์บุญ
พระอาจารย์พรหม พรหมสโร ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระที่กิ่งอำเภอ
บำเหน็ดณรงค์
ท่านพักจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์วัดป่าสำราญจิต
ตำบลบ้านชวน กิ่งอำเภอบำเหน็ดณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ
๕. พระอาจารย์คำตา
พร้อมพระภิกษุ ๕ รูป สามเณร ๒ รูป ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ที่อำเภอปักธงชัย
ท่านพักอยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์
วัดป่าเวฬุวัน อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
เมื่อพระอาจารย์คำตาจากไปแล้ว
ต่อมามีพระอาจารย์ตู้ เป็นผู้อยู่ปกครองสืบมา
๖. พระอาจารย์สิงห์
ขนฺตยาคโม พร้อมด้วยพระภิกษุ ๕ รูป สามเณร ๒ รูป ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่อำเภอจตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ท่านพักที่สำนักสงฆ์วัดป่าสุวรรณไพโรจน์
อำเภอจตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
อยู่ต่อมา คณะสงฆ์ได้ให้พระอาจารย์ทองอยู่
ฐิตธมฺโม ปกครองวัดสืบมา และได้ขอพระบรมราชานุญาต สร้างอุโบสถผูกพันทธสีมา
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒
พระอาจารย์ภุมมี
ฐิตธมฺโม
|
๗. พระอาจารย์ภุมมี
ฐิตธมฺโม พร้อมด้วยพระภิกษุ ๕ รูป สามเณร ๒ รูป ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ฝ่ายวิปัสสนาธุระ อำเภอจักรราช
ท่านพักอยู่ที่สำนักสงฆ์วัดป่าจักรราช
อำเภอจักรราช จังหวัดนครราชสีมา
ต่อมา คณะสงฆ์ได้จัดให้
พระอาจารย์สำราญ ปกครองอยู่สำนักสงฆ์วัดป่าจักรราช
|
ได้รับสมณศักดิ์ เป็นฐานานุกรมของเจ้าคุณพระธรรมปิฏก
เจ้าคณะธรรายุตภาค ๓-๔-๕ มีนามว่า พระครู ธรรมธรสำราญ
และได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
วิสุงคามสีมาสร้างอุโบสถเสร็จแล้ว ผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๒-๓ ๔-๕ กุมภาพันธ์
๒๕๐๓
อุบลราชธานี
พระอาจารย์เสาร์
กนฺตสีลเถระ และ พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถระ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สามเณรเป็นอัน
มาก เผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี |
พระอาจารย์มั่น
ภูริทัตตเถระ
|
๑. พระอาจารย์เสาร์
กนฺตสีลเถระ พักอยู่ที่วัดบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี และได้จัดการสร้างสำนักสงฆ์ขึ้น
หลายสำนัก คือ
สำนักสงฆ์วัดภูเขาแก้ว
อำเภอพิบูลมังสาหาร สำนักสงฆ์วัดดอนธาตุ อำเภอพิบูลมังสาหาร
สำนักสงฆ์วัดป่าบ้านสวนงัว
อำเภอม่วงสามสิบ
สำนักสงฆ์วัดบ้านเหล่าเสือโกก
อำเภอขุหลุ
สำนักสงฆ์วัดบ้านด่าน
อำเภออำนาจเจริญ
สำนักสงฆ์วัดป่าท่าหัวดอน
อำเภอเขื่องใน
ท่านป่วยเป็นโรคชรา
มรณะภาพล่วงไปเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕
๒. พระอาจารย์มั่น
ภูริทัตฺตเถระ ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ ภาค ๔ จังหวัดสกลนคร
ท่านพักอยู่ที่สำนักสงฆ์วัดป่าสุทธาวาส
จังหวัดสกลนคร แล้วไปอยู่สำนักสงฆ์ วัดป่าบ้านหนองผือ อำเภอ พรรณานิคม
จังหวัดสกลนคร
ป่วยด้วยโรคชราอาพาธถึงแก่มรณะภาพ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒
๓. พระอาจารย์ดี
ฉนฺโน เผนเพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดป่าภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลสาหาร
และ สำนักสงฆ์วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินทร์ชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ตั้งสำนักสงฆ์ วัดป่าด่าน อำเภอ อำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี
ท่านป่วยเป็นโรคเส้นโลหิตในสมองแตก
มารักษาอยู่สำนักสงฆ์วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินทร์ชำราบไม่หายถึงแก่มรณะภาพ
เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๐๒
๔. พระอาจารย์บุญสิงห์
อยู่จำพรรษาสำนักวัดสร่างโศก เปลี่ยนเป็นวัดศรีธรรมาราม ได้รับสมณศักดิ์
เป็น พระครูสัญญาบัตรมีนามว่า พระครูพิศาลศีลคุณ
๕. พระอาจารย์ฝั่น
ปาเรสโก อยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์วัดบ้านหนองไค่ อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี
ต่อมาท่านได้มาอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำเอราวัณ
จังหวัดเลย
สุรินทร์
พระอาจารย์ดูลย์
อตุโล พระมหาโชติ พระอาจารย์น้อย อรินฺทโม ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ
ในท้องที่จังหวัดสุรินทร์
หลวงปู่ดูลย์
อตุโลกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
|
๑. พระอาจารย์ดูลย์
อตุโล ท่านพักอยู่วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ ได้รับสมณศักดิ์
เป็นพระครูสัญญา บัตร มีนามว่า พระครูรัตนากร เจ้าคณะธรรมยุต จังหวัดสุรินทร์
และเป็นพระอุปัชฌาย์
ต่อมาคือ พระราชวุฒาจารย์
และมรณะภาพเมื่อ ๒๕๒๖
|
๒. พระอาจารย์มหาโชติ
คุณสัมฺปนฺโน พักอยู่สำนักสงฆ์ วัดป่าโยธาประสิทธิ กรมทหาร จังหวัดสุรินทร์
ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ มีนามว่า พระธรรมฐิติญาณ
ต่อมาท่านอยู่วัดสุทธจินดา
จังหวัดนครราชสีมา เป็นเจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดนครราชสีมา และได้เลื่อน
สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช มีนามว่า พระราชสุทธาจารย์ เมื่อวันที่
๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๒
ต่อมาคือ พระเทพสุทธาจารย์
(พระมหาโชติ คุณสมฺปนฺโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณ์วรารามวิหาร ปากช่อง
จังหวัดนครราชสีมา มรณะภาพเมื่อ ๒๔ มีนาคม ๒๕๑๗
พระอาจารย์น้อย
อรินฺทโม พักอยู่สำนักสงฆ์ วัดป่านิมิตรมงคลสถานี จังหวัดสุรินทร์
ศรีษะเกษ
พระอาจารย์ภุมมี
ฐิตธมฺโม ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ จังหวัดศรีษะเกษ
เมื่อไปถึงจังหวัดศรีษะเกษแล้ว
ท่านได้พักอยู่สำนักสงฆ์วัดป่าสำราญ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัด
ศรีษะเกษ
ต่อมาท่านไปอยู่ วัดโนนพระนิเวศน์
จังหวัดอุดรธานี
อุดรธานี
พระอาจารย์ภุมมี
ฐิตธมฺโม พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปน์โน
พร้อมด้วยพระ ภิกษุและสามเณรหมวดละ ๗ องค์ ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่านวิปัสสนาธุระ
ในท้องที่จังหวัดอุดรธานี
เมื่อไปถึงจังหวัดอุดรธานีแล้ว
พระอาจารย์ภุมมี
ฐิตธมฺโม พักอยู่สำนักวัดป่าโนนพระนิเวศน์ จังหวัดอุดรธานี ได้รับสมณศักดิ์เป็นฐานานุกรม
ของเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะธรรมยุติ ผู้ช่วยภาค ๓-๔-๕ รูปที่ ๓
มีนามว่าพระครูวินัยธรภุมมี ฐิตธมฺโม
พระอาจารย์อ่อน
ญาณสิริ ท่านพักอยู่สำนักสงฆ์วัดป่าบ้านหนองบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
มรณะภาพแล้ว
พระอาจารย์มหาบัวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
|
พระอาจารย์มหาบัว
ญาณสมฺปนฺโน ท่านพักอยู่สำนักสงฆ์วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง
จังหวัดอุดรธานี
( ปัจจุบันมีสมณศักดิ์ที่
พระธรรมวิสุทธิมงคล )
|
สกลนคร
พระอาจารย์ฝั้น
อาจาโร พระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ พระอาจารย์สิลา อิสฺสโร พระอาจารย์แว่น
พระอาจารย์หอม พระอาจารย์ทองคำ พร้อมด้วยพระภิกษุและสามเณรหมวดละ
๗ รูป ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา ฝ่ายวิปัสส นาธุระ ในท้องที่จังหวัดสกลนคร
เมื่อไปถึงจังหวัดสกลนครแล้ว
เวลานี้เผยแพร่พระพุทธศาสนาฝ่ายวิปัสสนาธุระ อยู่ในสำนักต่างๆ ดังต่อไป
นี้คือ
๑. พระอาจารย์ฝั้น
อาจาโร อยู่สำนักสงฆ์ วัดป่าถ้ำผาขาม จังหวัดสกลนคร
๒. พระอาจารย์กงมา
จิรปุญฺโญ พักอยู่สำนักสงฆ์ยอดเขา เรียกว่า วัดป่าดอยธรรมเจดีย์
จังหวัดสกลนคร