สถานที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้ง
กุฏิหลวงปู่มั่น*

ความเป็นมาของวัด
ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ พระอาจารย์วิริยังค์ได้รับคำสั่งจากองค์หลวงปู่มั่นให้มาแก้ไขความเชื่อของชาวบ้านห้วยแคน เนื่องจากมีความเชื่อในการนับถือผีและได้แนะนำเกี่ยวกับการทำการเกษตรให้แก่บ้านนี้อีกด้วย พระอาจารย์วิริยังค์ได้บันทึกเกี่ยวกับสภาพบ้านห้วยแคนในสมัยไว้ในหนังสือ " ชีวิตคือการต่อสู้ " บันทึกประวัติของท่านเองไว้ว่า

"... บ้านห้วยแคน บริเวณเป็นป่าใหญ่ เป็นชายภูเขาร่มรื่นสมควรที่จะอยู่วิเวกทำสมาธิให้ยิ่งในที่นี้ ..."

เมื่อพระอาจารย์วิริยังค์ได้มาพำนักที่นี่ได้ทำการสั่งสอนชาวบ้านให้เลิกนับถือผี และเกี่ยวกับการประกอบอาชีพจนทำให้หมู่บ้านนี้พัฒนาทั้งทางด้านคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และคุณธรรมจริยธรรม จนเป็นที่น่าพอใจแล้วพระอาจารย์วิริยังค์จึงได้อาราธนาองค์หลวงปู่มั่นมาเยี่ยมและพำนักอยู่ที่นี่เป็นเวลา ๓ เดือน ในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ต่อมาชาวบ้านหนองผือได้มาอาราธนาองค์ท่านไปจำพรรษา ณ วัดป่าบ้านหนองผือ หลวงปู่มั่นจึงได้จากที่นี่ไปและจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองผือติดต่อกันเป็นเวลา ๕ พรรษาจนมรณภาพ


กุฏิร้างภายในวัด*

ศาลาใหญ่หลังปัจจุบัน
สร้างบนบริเวณที่เคยเป็นศาลาสมัยหลวงปู่มั่น

บริเวณที่เคยเป็นเสนาสนะหลวงปู่มั่น

สภาพวัดในปัจจุบัน
ภายหลังจากที่องค์หลวงปู่มั่นได้จากไปแล้ว พระอาจารย์วิริยังค์ได้มาดูแลเสนานสนะป่าแห่งนี้บ้างเป็นการชั่วคราว ต่อมาได้ร้างลงจนเสนาสนะต่างๆ เช่น ศาลาโรงธรรม กุฏิที่หลวงปู่มั่นเคยพำนัก ก็ได้ผุพังสูญหายไปตามกาลเวลา เหลือเพียงสภาพป่าไม้ที่ยังคงรักษาไว้เหมือนเมื่อครั้งที่องค์ท่านยังอยู่ ปัจจุบันอยู่ในบริเวณวัดบ้านห้วยแคนใหญ่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

ห้องน้ำที่พระอาจารย์วิริยังค์สร้างให้วัดบ้านห้วยแคนใหญ่*


คุณตาเจริญ ดาสุภี*

คณะสำรวจได้พบกับคุณตาเจริญ ดาสุภี อายุ ๖๗ ปี ท่านเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านห้วยแคนใหญ่ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๑ - ๒๕๔๑ คุณตาเล่าว่าในสมัยที่องค์หลวงปู่มาพำนักที่นี่ คุณตาอายุประมาณ ๗ - ๘ ขวบ ยังได้ทันเห็นองค์หลวงปู่มั่น ซึ่งคุณตาเองยังได้มาเป็นเด็กวัดคอยช่วยงานที่วัดนี้ โดยเฉพาะพระอาจารย์วิริยังค์คุณตายังได้เคยยกบาตรถวายท่าน คุณตาได้พาไปชี้จุดที่เคยเป็นกุฏิที่พำนักหลวงปู่มั่น ศาลาโรงธรรมในสมัยนั้นซึ่งปัจจุบันได้สร้างศาลาการเปรียญขึ้นมาแทนเพราะของเก่าผุพังลงไปแล้ว คุณตาได้เล่าว่าภายหลังจากที่บริเวณนี้ได้ร้างลง ในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ก็ได้มีการย้ายวัดบ้านมาตั้งในบริเวณนี้ โดยได้ขออนุญาตกับทางเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติในสมัยนั้นเรียบร้อยแล้ว ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๐ พระอาจารย์วิริยังค์ได้มาเยี่ยมวัดบ้านห้วยแคนใหญ่นี้ และยังได้เมตตาสร้างห้องน้ำให้วัดนี้ด้วย

วัดนี้ไม่มีหลักฐานอะไรหลงเหลืออยู่เลยว่าองค์หลวงปู่ได้เคยมาพำนักที่นี่ ควรจะได้มีอนุสรณ์เป็นถาวรวัตถุขึ้นชี้บริวณต่างๆ ภายในวัด เพื่อมิให้ลืมเลือนไป เพราะถ้าหากคนรุ่นเก่าได้ล้มหายตายจากไปแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับวัดนี้ก็จะคงจะถูกลืมเลือนไปอีกเช่นกัน

< หน้าก่อน   หน้าต่อไป >
http://www.luangpumun.org