ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ร่วมเดินไปยังสถานที่ที่เกี่ยวเนื่อง กับองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พร้อมเรื่องราวความสำคัญ ศิษยานุศิษย์ที่เข้ามาฝากตัว เป็นสานุศิษย์ถักทอสู่ "กองทัพธรรมพระกรรมฐาน" โดยเว็บมาสเตอร์ www.luangpumun.org และสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ศิษยานุศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากรายการ แฟนพันธุ์แท้ 2018

เมนูหลัก ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น คลิ๊ก

อรัญญวิเวก บ้านปงองค์หลวงปู่มั่นให้นาม
วัดอรัญญวิเวก บ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ตอนที่
35


องค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จำพรรษา ณ เสนาสนะป่าบ้านปง ต่อมาได้ก่อตั้งขึ้นเป็น วัดอรัญญวิเวก บ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ (รูปโดย Admin)

          เสนาสนะป่าบ้านปง องค์หลวงปู่มั่น ได้มาจำพรรษาในปี พ.ศ.2474 ออกพรรษาแล้วท่านได้ลาญาติโยม และขนานนามชื่อสถานที่แห่งนี้ไว้ว่า สำนักสงฆ์อรัญญวิเวก เดินทางลงไปกรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมอาพาธท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ที่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางกลับมาวัดเจดีย์หลวงพร้อมกับรับภาระเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง ในปี พ.ศ.2475

          ภายหลังออกพรรษาปี พ.ศ.2480 องค์หลวงปู่มั่น ได้เดินทางมาบ้านปง ได้เมตตาให้โอวาทแก่ศิษย์ที่จำพรรษา มี หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี เป็นต้น และเกิดเหตุการณ์พระอาจารย์บุญธรรม ซึ่งเป็นคติให้เกรงในโทษของการประมาทครูบาอาจารย์ และเป็นพระสงฆ์ควรปราศจากตัวตน

บ้านโป่ง-บ้านปง แห่งเดียวกัน

          บันทึกเกี่ยวกับสถานที่นี้ จากหนังสือครูบาอาจารย์ 5 เล่ม มีบันทึกไว้ในชื่อ “บ้านโป่ง” จาก 4 เล่ม คือ (1) ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริตฺตเถระ ฉบับสมบูรณ์ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ปี พ.ศ.2521 (2) ประวัติและเรื่องราวของพระอาจารย์มั่น ฉบับย่อ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร พ.ศ.2520 และ (3) อัตตโนประวัติ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์พ.ศ.2538 (4) ชีวประวัติพระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม พ.ศ.2435 และมีบันทึกไว้ในชื่อ “บ้านปง” ในจำนวน 1 เล่ม คือ อนุสรณ์ในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ พระคุณเจ้า หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ พ.ศ. 2530 ซึ่งแต่ละเล่มได้ระบุอำเภอที่ตั้งทั้งแตกต่างกันและเหมือนกัน ดังแสดงในตาราง

สำหรับชื่ออำเภอสันมหาพน เป็นชื่ออำเภอเดิมของอำเภอแม่แตง ก่อนจะกลายมาเป็นชื่อตำบลหนึ่งในอำเภอแม่แตง ในปัจจุบัน จากการศึกษาในบริบทของแต่ละเล่ม Admin จึงขอสรุปไว้ว่า บ้างโป่ง หรือ บ้านปง คือ สถานที่เดียวกัน ซึ่งปัจจุบัน คือ วัดอรัญญวิเวก บ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ สำหรับช่วงเวลาที่องค์หลวงปู่มั่น ได้มาจำพรรษา ได้อ้างอิงตามหนังสือที่ (1) และ (2) ได้ระบุว่า องค์หลวงปู่มั่น มาจำพรรษาในปี พ.ศ.2474 ซึ่งสอดคล้องกับประวัติที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้ลำดับพรรษาไว้

แต่ในประวัติวัดอรัญญวิเวก ได้ระบุเป็นปี พ.ศ.2470 และในจารึกไว้ในลานนา ได้ระบุเป็นปี พ.ศ.2471 ซึ่งคาดคะเนว่า องค์หลวงปู่มั่นอาจได้มาพักชั่วคราว ในช่วงเวลาก่อนการจำพรรษาในปี พ.ศ. 2474 นั้น โดยสังเกตจากที่ ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ได้เคยมาวิเวก ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงระยะเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2471-2473 ที่ท่านยังจำพรรษาอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง ซึ่งจะต้องศึกษาต่อไป

 บ้านปงก่อนองค์หลวงปู่มั่นมาจำพรรษา

ดั้งเดิมอาจจะเป็นวัดมาก่อนแล้วร้างลงจนเป็นป่าไม้ จากบันทึกประวัติ วัดอรัญญวิเวก บ้านปง โดย หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปธีโป ได้กล่าวไว้ดังนี้

...สถานที่แห่งนี้คงจะได้เคยเป็นที่ตั้งของวัดในพระพุทธศาสนามาก่อนทั้งนี้เพราะมีแนวซากฐานของพระวิหารเก่าหลงเหลืออยู่ ท่ามกลางที่รกร้างมีต้นไม้เต็งรังและไม้นานาชนิดเล็กใหญ่ขึ้นอยู่ทั่วไป แต่ไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันว่าได้สร้างไว้นานเท่าใดในสมัยใด แม้ว่าครั้งหนึ่งชาวบ้านหางดง ตำบลอินทขิล จะได้เคยตั้งเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นและนิมนต์พระภิกษุมาจำพรรษา แต่ตั้งอยูได้ไม่นานก็เลิกร้างไปแล้วย้ายมาตั้งวัดขึ้นใหม่ที่บ้านหางดง ซึ่งปรากฏเป็นวัดหางดงในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้จึงถูกทอดทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าตามเดิมอยู่เป็นเวลานานปี... (หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป)


องค์หลวงปู่มั่น และศิษย์ติดตาม ได้มาพักยัง วัดติยะสถาน (วัดไทยใหญ่) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะรับอาราธนาให้มาจำพรรษาที่บ้านปง (รูปจาก พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ประวัติส่วนตัวการจำพรรษาและการออกธุดงค์)

 ได้ข่าวพระสุปฏิปันโนอาราธนามาโปรด

          ชาวบ้านปง มีความปรารถนาจะได้นิมนต์พระผู้ปฏิบัติดีได้มาโปรด เมื่อได้ทราบข่าวว่ามีพระธุดงค์มาอยู่ที่วัดใกล้เคียง จึงได้พากันไปนิมนต์ ซึ่งพระธุดงค์นั้น คือ องค์หลวงปู่มั่น พร้อมด้วยคณะศิษย์ จึงได้อาราธนาท่านมายังบริเวณป่าช้าหมู่บ้านของตน เมื่อองค์หลวงปู่มั่น พบบริเวณที่องค์ท่านพอใจแล้ว จึงได้พักบริเวณนั้น พร้อมกับคณะศิษย์ จากบันทึกประวัติ วัดอรัญญวิเวก บ้านปง โดย หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปธีโป ได้กล่าวไว้ดังนี้

          .....สาธุชนชาวบ้านปงได้ข่าวว่ามีพระอาจารย์กัมมัฏฐานจาริกมาพักอยู่ที่วัดเงี้ยว ปัจจุบันคือ วัดติยะสถาน (ไทยใหญ่) อ.แม่แตง จึงได้ปรึกษากันว่าน่าจะพากันไปสืบดูให้แน่ชัด หากว่าข่าวนี้เป็นความจริง ก็จะได้อาราธนานิมนต์ท่านให้มาพักเพื่อโปรดชาวบ้านปงบ้าง จะให้ท่านเลือกสถานที่สำหรับปลูกที่พักและคณะชาวบ้านจะปลูกกุฏิให้ท่านอยู่เป็นที่เจริญสมณธรรรมกัมมัฏฐาน

เมื่อได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คณะผู้แทน ชาวบ้านประมาณ 9 ท่าน นำโดยหลวงพ่อหมื่นชัยมงคล (พ่ออุ้ยเฮือง) พร้อมด้วยคนสนิทคือ พ่ออุ้ยแสนพิพิธภักดี, พ่ออุ้ยวัง สุมดาอิ่ม,พ่ออุ้ยแสน, พ่ออุ้ยจัน, พ่ออุ้ยน้อยหล้า, พ่ออัยน้อยแก้ว, พ่ออุ้ยน้อยแสน และพ่ออัยหมื่น ชัยมงคล จึงได้พร้อมใจกันออกเดินทางไปยังวัดเงี้ยว อ.แม่แตง

เมื่อไปถึงก็ได้ทราบชัดว่ามีพระอาจารย์กัมมัฏฐาน มาพักอยู่จริงตามข่าวลือปรากฏว่าพระอาจารย์กัมมัฏฐานที่มาพักโปรดญาติโยมที่วัดเงี้ยว คือ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ของท่านที่จาริกตามพระอาจารย์มาปฏิบัติอยู่ด้วยอีกหลายองค์

คณะศรัทธาที่เดินทางไปจากบ้านปง จึงได้กราบเรียนอาราธนาพระอาจารย์มั่นและคณะศิษย์ ได้โปรดให้โอกาสกับชาวบ้านปงให้ได้รับรสพระธรรมคำสั่งสอนและได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญกุศลหลังจากที่ท่านได้พิจารณาดูแล้วพระอาจารย์มั่นจึงตอบว่า

"อาตมาก็พอที่จะไปโปรดเมตตาคณะศรัทธาทั้งหลายได้อยู่หรอก"

เมื่อพระอาจารย์มั่นให้โอกาสเช่นนี้ คณะศรัทธาจากบ้านปงจึงได้กราบเรียนท่านว่า

"หากพระคุณเจ้าให้โอกาสและไม่ขัดข้องด้วยแล้ว พวกข้าพเจ้าทั้งหลายก็ขออาราธนานิมนต์ พระ

อาจารย์เจ้าได้ไปพร้อมกับพวกข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้ พระอาจารย์เจ้าจะขัดข้องประการใดหรือไม่"

พระอาจารย์มั่นตอบว่า

"หากจะให้อาตมาเดินทางไปพร้อมกับพวกศรัทธาเลยในวันนี้ก็ไม่ขัดข้อง"

เมื่อการอาราธนาได้เป็นที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วเช่นนี้ พระอาจารย์มั่น จึงได้สั่งให้ศิษยานุศิษย์ของพระคุณท่านตระเตรียมสิ่งของบริขาร แล้วมอบให้พวกศรัทธาคนละไม้ละมือเพื่อถือมา การเดินทางในครั้งนี้ ไม่มีรถราประการใด คงเดินทางด้วยเท้า เป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร พระอาจารย์พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์และคณะศรัทธาทั้งหลายที่ไปนิมนต์ออกเดินทางจากวัดเงี้ยวมุ่งหน้าสู่บ้านปง เมื่อมาถึงบ้านปงและพักผ่อนพอสบายหายเหน็ดเหนื่อยสมควรแล้ว

พระอาจารย์มั่นจึงได้ปรารภขึ้นว่า

"อาตมาจะไปหาที่พักในวันนี้ หนทางจะไปป่าช้ามีทางใด จะเป็นที่ไหนก็ได้"

พวกศรัทธาจึงพาท่านอาจารย์ไปพักที่ป่าช้าบ้านเด่น ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของบ้านปง พระอาจารย์ได้พักอยู่ที่ป่าช้าบ้านเด่นได้ 3 วัน คณะศรัทธาจึงได้พาพระอาจารย์เที่ยวหาที่พักใหม่ อันสงบเงียบกว่านี้ จึงได้เดินทางไปพบสถานที่อันเป็นเนินเขาเงียบสงัดอากาศเย็นสบาย ปราศจากเสียงรบกวนใดๆ ที่สำคัญก็คือสถานที่ที่พบนี้มีแนวซากฐานของพระวิหารอันเป็นวัดร้าง เหมาะเป็นที่เจริญสมณธรรมกัมมัฏฐานยิ่ง พระอาจารย์จึงบอกกับพวกศรัทธาทั้งหลายว่า


หลวงปู่ประสิทธิ์ ฉนฺทาคโม องค์ท่านขึ้นมาจาริกในภาคเหนือตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2506 ได้เมตตาชี้ตำแหน่งที่เคยเป็นที่ตั้งกุฏิองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ณ วัดอรัญญวิเวก ซึ่งมีศิลาทรงกลมลักษณะเป็นโคนเสา เป็นสัญลักษณ (รูปโดย Admin)

 "ที่นี้เป็นที่เหมาะสม เป็นที่วิเวกสบายดี อาตมาจะพักอยู่ที่นี่"

แล้วจึงให้พวกศรัทธาทั้งหลายจัดปลูกที่พักพอเป็นที่อยู่อาศัยได้เป็นการชั่วคราวในวันต่อมาในช่วงเวลาที่พระอาจารย์มั่น หรือที่ศิษยานุศิษย์รุ่นหลัง ๆ ในปัจจุบันเรียกท่านว่า หลวงปู่มั่น มาพักอยู่สถานที่นี้นั้นในพรรษาแรกนี้ หลวงปู่มั่นได้พาศิษย์อยู่จำพรรษาร่วมกันทั้งหมด 6 รูป คือ

1. หลวงปู่มั่น
2. หลวงปู่แหวน
3. หลวงปู่พร
4. หลวงปู่พัตร
5. หลวงปู่วิรัช
6. พระอาจารย์บุญ

(หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป)


บรรยากาศภายใน วัดอรัญญวิเวก บ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ (รูปโดย Admin)

ป่าโปร่งถูกธาตุขันธ์

ในพรรษากาล ปี พ.ศ. 2474 องค์หลวงปู่มั่น ประสงค์ที่จะจำพรรษาในพื้นที่ป่าโปร่ง ไม่หนาทึบชุ่มน้ำจนเกินไปโดยเฉพาะในฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงในพรรษา อากาศถ่ายเทถูกธาตุขันธ์ ซึ่งพื้นที่ป่าใกล้เคียงกับบ้านโป่งเป็นที่พอใจขององค์ท่าน และมีญาติโยมที่อยู่ใกล้พอบิณฑบาตได้ ไม่รบกวนท่านจนเกินไป เพราะเห็นเป็นเพียงพระรูปหนึ่งเท่านั้นไม่ทราบชื่อเสียง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของชาวบ้านปงในขณะนั้น

จากบันทึกประวัติองค์หลวงปู่มั่น โดยหลวงพ่อวิริยังค์ ได้กล่าวถึงสภาพป่าของบ้านโป่ง (คือ บ้านปง Admin) ที่เหมาะสมของธาตุขันธ์ไว้ดังนี้

...เราต้องการหาที่โปร่ง ๆ จำพรรษาสำหรับปีนี้ เพื่อจะได้พิจารณาถึงการอยู่ป่า ที่จะอยู่ได้นานๆ เพราะป่าบางป่าชุ่มเกินไป ป่าบางป่าทึบเกินไป อยู่ลำบากมาก อาจเกิดโรคภัยต่าง ๆ ได้ ทั้งเป็นการบั่นทอนกำลังของร่างกาย แต่ว่าป่าทึบนั้นก็ดีแต่เฉพาะที่ไม่ใช่หน้าฝน...การอยู่ที่บ้านโป่งนี้เป็นป่าต้นไม้ใหญ่ก็จริง แต่ไม้ใหญ่นี้ขึ้นสูงมาก ต้นไม้อยู่ข้างๆ ก็ไม่มีโอกาสจะโตขึ้นได้ เพราะร่มต้นไม้ใหญ่บัง ถึงแม้จะมีการถากถางก็ไม่ต้องทำอะไรมาก บางแห่งไม่ต้องถากถางเลยก็ใช้เป็นสถานที่อยู่ได้ และท่านได้เลือกเอาสถานที่ห่างจากบ้านพอสมควรอันเป็นแหล่งที่จะเที่ยวภิกขาจารได้ และบ้านโป่งนี้ก็เป็นป่าไม้ใหญ่โต...(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)


(รูปจาก พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ประวัติส่วนตัวการจำพรรษาและการออกธุดงค์)

ญาติโยมถูกอัธยาศัย

นอกจากสภาพป่าแล้ว ญาติโยมที่อยู่ใกล้พอบิณฑบาตได้ ไม่รบกวนท่านจนเกินไป ไม่หลงในชื่อเสียง เพราะเห็นเป็นเพียงพระรูปหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติของชาวบ้านปงในขณะนั้น แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องการนับถือผี ซึ่งเป็นส่วนลึกของชาวบ้านท้องถิ่นก็ยังมีอยู่ ยังยากที่จะแก้ไข

          จากบันทึกประวัติองค์หลวงปู่มั่น โดย หลวงพ่อวิริยังค์ ได้กล่าวถึงลักษณะญาติโยมชาวบ้านปงในขณะนั้น ไว้ดังนี้

...ผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน และก็ไม่เป็นที่รบกวนแก่การบำเพ็ญสมณธรรม พวกชาวบ้านเหล่านี้เขาเห็นตุ๊เจ้ามาก็ดีใจเหลือหลาย เพราะนานปีจึงมีตุ๊เจ้ามาโปรดอย่างนี้ แต่เขาก็ไม่ทราบว่าตุ๊เจ้ามั่นฯ ท่านเป็นใคร อย่างไร ? เขาก็เข้าใจแต่เพียงว่าตุ๊เจ้าองค์หนึ่งเท่านั้น

เพราะชาวบ้านเป็นชาวพุทธ เมื่อถึงเวลาเทศกาลเขาจะเดินไปทำบุญที่วัดตั้งหลายชั่วโมงเขาก็ยังอุตส่าห์ไปกัน เมื่อตุ๊เจ้ามาให้ทำบุญอยู่ใกล้ ๆ และจำพรรษาอยู่ในที่นี้ ก็ทำให้เขาดีใจเหลือหลาย จึงได้ช่วยท่านทำเสนาสนะพอที่จะอยู่จำพรรษาได้...

ความจริงพรรษานี้ ท่านก็ได้พยายาม เพื่อตรวจถึงความจริงของพระพุทธศาสนา จนเห็นว่ามีมิจฉาทิฏฐิปะปนอยู่มาก ที่ว่าเช่นนั้นเพราะท่านเห็นชาวบ้านพากันนับถือภูตผีปีศาจ และนับถืออะไรต่อมิอะไรอื่นอีกเหลือคณานับ เช่น ตรงไหนมีต้นไม้ครึ้ม ๆ เขาก็ไปบูชากัน เห็นหินก้อนใหญ่ ๆ ก็ไปบูชากัน ถึงปีเช่นวันเพ็ญเดือนสิบสอง เขาก็จะมีการเลี้ยงผีแล้วก็เซ่นสรวงบูชาทำกันอย่างเอิกเกริก เหมือนกับไม่ใช่ชาวพุทธ แต่เขาก็เป็นพุทธ

ท่านว่า เรื่องอย่างนี้ก็แก้ยาก เพราะคนยังมีจิตใจต่ำ ยังไม่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ซาบซึ้งจริง ๆ แต่หากว่าเขาได้พัฒนาจิตขึ้นมาก สภาพจิตของเขาก็อาจจะดีขึ้น จนถึงกับเลิกเชื่อถือภูตผีปีศาจก็เป็นได้...(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)


(รูปจาก พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ประวัติส่วนตัวการจำพรรษาและการออกธุดงค์)

ขนานนาม อรัญญวิเวก

พอออกพรรษาผ่านไประยะหนึ่งแล้ว องค์หลวงปู่มั่น ได้ลาศรัทธาชาวบ้านปง เพื่อวิเวกต่อไป โดยองค์หลวงปู่มั่น ได้ขนานนามสถานที่แห่งนี้ไว้เป็นมงคลนามว่า อรัญญวิเวก ซึ่งได้เป็นนาม วัดอรัญญวิเวก จนถึงปัจจุบันนี้ จากบันทึกประวัติ วัดอรัญญวิเวก บ้านปง โดย หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปธีโป ได้กล่าวไว้ดังนี้

... ตลอดระยะเวลาที่หลวงปู่มั่นจำพรรษาอยู่ที่บ้านปงนี้ ท่านได้เทศน์อบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธาญาติโยมตลอดจนสาธุชนทั้งหลายในหมู่บ้านปงและหมู่บ้านใกล้เคียง ได้มีความเข้าใจในหลักการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น คณะศรัทธาและชาวบ้านทั้งหลายต่างมีความเลื่อมใสและพากันทำบุญสุนทานมากขึ้น เมื่อออกพรรษาแล้ว หลวงปู่พักอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาพอสมควรจึงปรารภกับศิษยานุศิษย์เพื่อออกเที่ยวธุดงค์ต่อไป

เมื่อเป็นที่ตกลงกันได้แล้ว หลวงปู่จึงแจ้งให้ศรัทธาญาติโยมทราบว่า ท่านจะขอลาญาติโยมทั้งหลายไปเที่ยวหาวิเวกต่อกับหมู่คณะพระศิษย์ที่อยู่ร่วมกันทั้งหมดนี้ โดยจะพาหมู่คณะออกธุดงค์ไปทางถ้ำเชียงดาว

ก่อนที่หลวงปู่มั่นจะพาศิษย์ออกเดินธุดงค์ ท่านได้บอกแก่คณะศรัทธาญาติโยมว่า จะตั้งชื่อที่นี้ให้ เรียกชื่อว่า สำนักอรัญญวิเวก บ้านปง (ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดลอยบ้านปง)

หลวงปู่มั่น ยังได้สั่งเพิ่มอีกว่า "ขอให้คณะศรัทธาญาติโยมจงพากันรักษาปฏิบัติดูแลสำนักแห่งนี้ไว้ให้ดี ต่อไปในอนาคตข้างหน้านั้นจะมีเจ้าของเขามาสร้างพัฒนาให้เจริญรุ่งเรือง เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน และเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองในอนาคตภายภาคหน้าแก่ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายสืบไป" .... (หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป)

เหตุการณ์ต่อจากนั้น องค์หลวงปู่มั่น น่าจะได้ทราบข่าวการอาพาธของท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) ที่รักษาอาพาธอยู่ที่ วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ องค์หลวงปู่มั่น ได้ลงไปเยี่ยมท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ที่กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2474 ซึ่งเป็นช่วงปลายปี หลังจากออกพรรษาที่วัดอรัญญวิเวกแล้ว ก่อนจะเดินทางขึ้นมาถึงวัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ในช่วงต้นปี พ.ศ.2475 และจำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวงในปีนั้น (อ่านรายละเอียดใน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ตอนที่ 30)


ครูบาอาจารย์ที่มาพักยัง วัดอรัญญวิเวก ในปี พ.ศ.
2480 จากขวาไปซ้าย หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, พระอาจารย์บุญธรรม, หลวงปู่เพียร, หลวงปู่คำอ้าย, พระอาจารย์กู่ ธมฺมทินโน, หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ และไม่ทราบนาม (ข้อมูลอธิบายภาพจาก ประวัติโดยย่อ วัดอรัญญวิเวกฯ และรูปจาก พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ประวัติส่วนตัวการจำพรรษาและการออกธุดงค์)

 ปี พ.ศ.2480 ครูบาอาจารย์จำพรรษา

ในพรรษากาลปี พ.ศ.2479 หลวงปู่เทสก์ จำพรรษาอยู่ที่บ้านมูเซอ ปู่พญา ออกพรรษาแล้วได้เดินทางลงมาแถบ อ.พร้าว อ.เชียงดาว และเข้ามาที่ อ.แม่แตง มาจำพรรษาที่ บ้านปง กับสหธรรมิกรวม 5 รูป ในปี พ.ศ. 2480

ออกพรรษาแล้ว องค์หลวงปู่มั่น ซึ่งในพรรษานั้นจำพรรษาอยู่ที่ วัดพระธาตุจอมแจ้ง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ได้เดินทางมาเมตตาแก่ศิษย์ที่บ้านปง โดยบันทึกประวัติ หลวงปู่เทสก์ ได้กล่าวไว้ดังนี้

...ปีนี้เรา (หลวงปู่เทสก์) จำพรรษาด้วยกัน 5 รูป คือ อาจารย์บุญธรรม 1 พระเขื่อง 1 พระเมืองเลย 1 (จำชื่อไม่ได้) พระอาจารย์ชอบ 1 และเรา เราเป็นหัวหน้าได้เลือกสรรอุบายต่างๆ มาเทศน์อบรมหมู่เพื่อนเพื่อให้ได้หลักธรรมปฏิบัติแน่นแฟ้นมั่นคง เป็นที่พึ่งแก่ตนเองได้ต่อไป..(หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี)

หลวงปู่ชอบ ได้กล่าวถึงผลของการภาวนาที่เกิดขึ้นที่บ้านโป่ง (คือ บ้านปง Admin) จากบันทึกประวัติหลวงปู่ชอบ ไว้ดังนี้

... ท่านเล่าว่า เป็นที่สัปปายะ เหมาะแก่การภาวนามาก ภาวนาไม่นาน จิตจะสงบลงถึงฐานของสมาธิอย่างง่ายดาย การนั่งภาวนาจนตลอดสว่างวันยังค่ำคืนยันรุ่งก็ทำได้โดยไม่ยาก เวลาเดินจงกรม ก็รู้สึกเหมือนกับเหาะลอยไปในอากาศ...ที่วัดบ้านโป่งนี้ ท่านจึงพักการรับแขกนอก หันมาคิดค้นดูแขกภายใน...หรือกายของตนเองอย่างเอาเป็นเอาตาย อุบายปัญญาก็บังเกิดขึ้นกับสติ ที่จะห้ำหั่นกิเลสให้ขาดลงไปเป็นลำดับๆ ครั้นออกพรรษา ปวารณาแล้ว ท่านก็ได้ลาจากวัดบ้านโป่ง ไปด้วยความสำนึกในคุณของสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุด (คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต)

 ประมาทครูบาอาจารย์

ออกพรรษาแล้วได้เกิดเหตุการณ์ที่ พระอาจารย์บุญธรรม ไม่อาจทนต่อคำสอนองค์หลวงปู่มั่น จนได้รับความลำบากและมรณภาพ เป็นคติเตือนใจในการประมาทต่อครูบาอาจารย์ ตามบันทึกประวัติองค์หลวงปู่เทสก์ ได้กล่าวไว้ ดังนี้

...ในหมู่นั้น ผู้ที่น่าสงสารกว่าเพื่อนคือ ท่านอาจารย์บุญธรรม (เป็นชาวสุรินทร์) มีพรรษามากแต่ยังภาวนาไม่เป็น ทั้งสองท่านนี้จะตามไปรู้เรื่องอะไรต่ออะไรของท่านหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็มิใช่เป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปเสียด้วย พอเพื่อนทักเข้าก็ยอมรับสารภาพโดยดี จนยอมลงกราบพระผู้อ่อนพรรษากว่าเสียด้วย ท่านทั้งน้อยใจและอับอายหมู่เพื่อนมาก แล้วก็ไม่เคยพบท่านอาจารย์มั่นเลย แต่เคยเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์สิงห์ อยากฟังเทศน์ท่านอาจารย์มั่นมาก โดยท่านสำคัญตัวว่าท่านมีความรู้พอ หากได้ฟังเทศน์ท่านอาจารย์มั่นแล้วจะรู้เห็นธรรมโดยพลัน เราเคยเตือนท่านเสมอว่า ให้ระวังเมื่อเห็นและฟังเทศน์ของท่านแล้วจะเกิดความประมาทท่าน

ออกพรรษาแล้ว ท่านอาจารย์มั่นได้ย้อนกลับมาหาพวกเราอีก ท่านอาจารย์บุญธรรมได้ฟังธรรมเทศนาของท่านอาจารย์มั่นเท่านั้นแหละ กลับตาลปัตรตรงกันข้ามเลย คือไม่พอใจในอุบายของท่านอย่างน่าเสียดาย ภายหลังท่านน้อยใจอย่างไรก็ไม่ทราบ ได้หนีจากหมู่ไปเที่ยววิเวกรูปเดียว แต่โชคไม่อำนวยไปเป็นไข้ป่ามาลาเรียขึ้นสมอง ท่านอาจารย์เหรียญไปเจอเข้าจึงได้หอบกลับมา เลยมามรณภาพที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ โดยญาติและลูกศิษย์ไม่มีใครได้ไปปฏิบัติรับใช้... (หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี)

01 - OneDrive - Google Chrome
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ท่านได้ช่วยดูแลพระอาจารย์บุญธรรมจนมรณภาพ (รูปจาก ฐานข้อมูล
Admin) 

เรื่องราวของพระอาจารย์บุญธรรม ยังปรากฏในประวัติหลวงปู่เหรียญ ถึงสิ่งที่องค์หลวงปู่มั่นได้อบรมสั่งสอนและผลที่เกิดขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

...หลวงปู่มั่นท่านจึงถือเอาโอกาสที่เหล่าสงฆ์ผู้เป็นศิษย์ของท่าน มาประชุมพร้อมกันในครั้งนั้น เทศน์อบรมแก่สงฆ์ทั้งหลาย แต่ครั้งนั้นพระอาจารย์บุญธรรม จะถูกหลวงปู่มั่นท่านเทศน์จี้เป็นพิเศษ โดยหลวงปู่มั่นท่านกล่าวว่า

"ท่านบุญธรรมนี้ เป็นผู้ตั้งอยู่ในความประมาท ถือตัวว่าเป็นเจ้าเป็นนายมาบวช สำคัญว่าตนมีความรู้มาก เอาเปรียบหมู่คณะ ไม่ช่วยเหลือการงานของหมู่ บกพองในข้อวัตรปฏิบัติ ไม่ตั้งอยู่ในพระธรรมวินัย"

...พอตกตอนเย็น พระอาจารย์บุญได้เดินไปพบหลวงปู่ (หลวงปู่เหรียญ) ยังที่กุฏิ ขณะนั้นหลวงปู่กำลังจะสรงน้ำพอดี จึงหยุดคุยกัน ท่านกล่าวกับหลวงปู่ด้วยความน้อยใจว่า

"โอ้ย! ผมอยู่กับหมู่คณะไม่ได้แล้ว"

หลวงปู่จึงกล่าวว่า "ทำไม...เป็นอะไรหรือท่าน"

พระอาจารย์บุญธรรมตอบ "พระก็มีตั้งหลายรูป ท่านอาจารย์ใหญ่ มาว่าแต่ผมคนเดียว เราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ"

หลวงปู่จึงพูดว่า "พระยังมีหน้ามีตาอยู่หรือ ไม่ควรจะไปถือหน้าถือตานะ เราอุตส่าห์ดั้นด้นมาหาครูบาอาจารย์ไกลปานนี้ ท่านเทศน์ให้อุบายธรรมอย่างนั้น นับว่าบุญหลายนะ ถ้าเทศน์ให้ผม ผมจะไม่โกรธเลยนะ ผมจะยกมือขึ้นสาธุสุดศอกเลย ผมจะไม่เสียใจเลย ที่เราอุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมา ก็เพราะหวังมาให้ท่านสั่งสอน

เมื่อท่านเห็นบกพร่องงตรงไหน ท่านก็สอนเอา เราก็ปฏิบัติตามนั้น จุดมุ่งหมายก็อยู่ตรงนี้จึงได้มาหาท่าน ท่านอาจารย์ก็คงจะมีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกับผมมิใช่หรือ เมื่อท่านว่าอย่างนั้นก็เสียใจ มันจะได้รับผลดีอย่างไรเล่า ท่านเจตนาดีต่างหากเตือนสติเราว่าให้เรา จะได้แก้ไขให้ดีขึ้น"

ถึงแม้ว่าหลวงปู่เหรียญจะหาเหตุผลใดๆ มากล่าวแก่พระอาจารย์บุญธรรม ท่านก็ไม่ลงใจ ยืนยันแต่จะจากไปท่าเดียว หลวงปู่ท่านจึงคิดว่า "เออ! ไม่ลงก็แล้วไป คนใหญ่แล้วสอนกันยาก"

และในที่สุดพระอาจารย์บุญธรรมก็ไม่ฟังอยู่ดี ได้หนีไปในเย็นนั้นจริงๆ พอตอนเช้าจะไปบิณฑบาต หลวงปู่จึงไปกราบเรียนหลวงปู่มั่น ท่านก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่ท่านพูดขึ้นลอยๆ ว่า "ไปไม่ถึงไหนหรอก!" หลวงปู่เหรียญได้แต่นิ่ง ไม่พูดอะไรต่อ

01 - OneDrive - Google Chrome
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ท่านได้ช่วยดูแลพระอาจารย์บุญธรรมจนมรณภาพ (รูปจาก ฐานข้อมูล Admin)

หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือนต่อมา หลวงปู่ได้เที่ยววิเวกต่อไปทางเชียงใหม่พอดี เลยได้ข่าวพระอาจารย์บุญธรรม ว่าท่านได้อาพาธหนัก เป็นไข้ป่าขึ้นสมอง หลวงปู่ได้ติดตามไปดูแล ตอนนั้นพระอาจารย์บุญธรรมมาพักอยู่ที่วัดบ้านได้ 15 วันแล้ว ฉันข้าวไม่ได้เลย

พอหลวงปู่เหรียญไปพบก็เลยถามว่า "อาจารย์ไปยังไงมายังไง หลังจากออกจากหลวงปู่มั่นแล้ว"

ท่านก็บอกว่า "ไปภาวนาบนภูเขาลูกหนึ่ง อยู่องค์เดียวได้สักระยะหนึ่ง ก็เลยเป็นไข้มาลาเรียนี้แหละ"

หลวงปู่เหรียญ จึงรีบนำท่านส่งไปยังโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่อาการของท่านก็เพียบเต็มทีแล้ว รักษาตัวอยู่ประมาณ 8 วัน จึงมรณภาพ ไม่มีลูกศิษย์คอยเฝ้าอุปัฏฐากเลย... (ที่ระลึกในการพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)

ส่วนเราและพระเขื่องเมื่ออยู่อบรมกับท่านอาจารย์มั่นพอสมควรแก่เวลาแล้ว ได้ขอลาท่านออกไปวิเวกตามลำแม่น้ำแตงขึ้นไป

วัดอรัญญวิเวกอารามแห่งพระบูรพาจารย์

          ภายหลังจากองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้จากไปแล้ว ก็ยังมีครูบาอาจารย์สำคัญได้เคยมาพำนัก ได้แก่

ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)
หลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ (
2 พรรษา)
หลวงปู่ขาว อนาลโย (2 พรรษา)
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม (3 พรรษา)
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เป็นครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ ที่ได้เมตตามาจำพรรษาในช่วงท้าย คือ ปี พ.ศ. 2495-2505 ในปีต่อมา ท่านจึงจำพรรษาที่วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ และ
หลวงปู่สาม อกิญฺจโน


หลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ได้มาจำพรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 ท่านได้สืบสานเสนาสนะป่าบ้านปง จนเป็น วัดอรัญญวิเวก ที่มั่นคงในปัจจุบัน (รูปโดย Admin)

หลังจากนั้น หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ได้มาจำพรรษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 ท่านได้พัฒนาทำให้เป็นวัดอรัญญวิเวกที่มั่นคง เป็นสัปปายะสถานสำหรับการภาวนาจนถึงปัจจุบัน


(รูปจาก พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ประวัติส่วนตัวการจำพรรษาและการออกธุดงค์)

ขอขอบคุณ
คุณบุ๊ค คุณแอน คุณกุ่ย คุณแจน ช่วยอ่านตรวจแก้ตัวอักษา
บุญตาแอนติค และ คุณกมล นิลปาน อนุเคราะห์รูปครูบาอาจารย์
คลังสารสนเทศดิจิทัล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุเคราะห์ข้อมูล
โครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อุปถัมป์การดำเนินการรวบรวมข้อมูล
หากมีข้อผิดพลาดประการใด Admin กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้

อ้างอิง
1) ประวัติหลวงปู่มั่นฉบับสมบูรณ์ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร พ.ศ. 2541.
2) บทความ "หลวงปู่คำปันอริยสงฆ์ลุ่มน้ำแม่ริม " โดย ส.กวีวัฒน์ จากหนังสือ จารึกไว้ในล้านนา พ.ศ. 2563.
3) บูรพาจารย์ โดย สุกัญญา มกุฏอรฤดี, ณิชารีย์ แก้วพรรณา พ.ศ. 2549.
4) ประวัติ วัดอรัญญวิเวก บ้านปง โดย หลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปธีโป.
5) พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ประวัติส่วนตัว การจำพรรษา และการออกธุดงค์ พ.ศ.2546.
6) ชีวประวัติพระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฉบับสมบูรณ์ พ.ศ.2535 โดย คุณหญิงสุรีย์พันธ์ มณีวัต.
7) หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ จัดพิมพ์เป็นธรรมบรรณาการ เนื่องในการเสด็จพระราชทานเพลิงศพ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2552.

< ตอนก่อนหน้า : ตอนต่อไป >